![ภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine Withdrawal)](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/articles/Coffee_2a072fe7-4f7c-4f17-83a5-69813e759e13.jpg?v=1655877177&width=3000)
![ภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine Withdrawal)](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/articles/Coffee_2a072fe7-4f7c-4f17-83a5-69813e759e13.jpg?v=1655877177&width=3000)
ภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine Withdrawal)
การจิบกาแฟสักถ้วยในตอนเช้า หรือ พักดื่มกาแฟในช่วงกลางวัน อาจช่วยชาร์จพลังในวันที่แสนเหน็ดเหนื่อยของคุณ แต่การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจเป็นปัญหา "คาเฟอีน" เป็นสารกระตุ้นที่ทำงานเพื่อเพิ่มความตื่นตัว แต่หากคุณบริโภคคาเฟอีนบ่อยเกินไป คุณอาจจะต้องพึ่งพาสิ่งนี้ไปตลอด หรือที่เรียกกันติดปากว่า ติดคาเฟอีน และเมื่อคุณต้องการเลิกคาเฟอีน คุณอาจพบเจอกับ ภาวะถอนคาเฟอีน ที่จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดตามร่างกายได้
![](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/files/Coffee.jpg?v=1663055584&width=1500)
![](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/files/Untitled-24.jpg?v=1665025917&width=1500)
![](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/files/Drip_coffee_pic.jpg?v=1663055668&width=1500)
![](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/files/DSCF7254.jpg?v=1663055796&width=1500)
ภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine Withdrawal)
คาเฟอีน ถูกยอมรับว่าเป็นยาชนิดหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนนักว่าคาเฟอีนเป็นสารเสพติดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วิจัยได้เผยว่าการบริโภคคาเฟอีนเป็นประจำ อาจนำไปสู่อาการ Caffine Withdrawal ได้ หรือที่เรียกว่าภาวะถอนคาเฟอีน
ภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine Withdrawal)คือ ภาวะหนึ่งที่จะเกิดขึ้นต่อเมื่อผู้ที่บริโภคคาเฟอีนในปริมาณมากทุกๆวัน พยายามจะลดคาเฟอีน หรือหักดิบเลิกบริโภคไปเลย ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่นปวดหัว เครียดหรือกังวลอาการเหล่านี้คืออาการที่พบได้บ่อยที่สุด บางคนถึงขั้นมีอาการปวดหัวอย่างหนักจนทำให้ต้องกลับมาบริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่มากเท่าเดิม เนื่องจากพอบริโภคในปริมาณเท่าเดิมแล้วนั้น อาการเจ็บปวดก็จะหายไป คล้ายๆกับอาการเสพติดอย่างหนึ่ง
คาเฟอีนอยู่ในอะไรบ้าง?
-
● กาแฟ
● ชาดำ ชาเขียว ไช(ชาอินเดีย) มัทชะ อู่หลง (เรียงตามคาเฟอีนมากสุดไปน้อยสุด)
● น้ำอัดลม
-
● เครื่องดื่มชูกำลัง
● ช็อคโกแลต (dark & bittersweet)
● นม, ขนมหวาน, ไอศครีมที่เป็นรสกาแฟ
อาการที่พบได้บ่อยในภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine Withdrawal)
-
● ปวดหัว
● เครียดและวิตก
● ง่วง อ่อนเพลียง่าย● กังวล ยากต่อการโฟกัสทำสิ่งๆหนึ่ง
● บางคนอาจะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
![](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/files/Screen_Shot_2565-09-13_at_15.08.56.png?v=1663056665&width=1500)
วิธีรับมือกับภาวะถอนคาเฟอีนให้ดีต่อสุขภาพ
1. อย่าหักดิบเด็ดขาด
สิ่งสำคัญแรกสุดที่ควรคำนึงถึงไว้เสมอคือ "อย่าเลิกแบบหักดิบโดยเด็ดขาด" จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญส่วนมากแนะนำว่า ควรที่จะค่อยๆลดปริมาณคาเฟอีนมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะส่งผลให้มีสภาวะถอนคาเฟอีนได้
2.ดื่มน้ำให้มากขึ้น
ให้มั่นใจว่าคุณดื่มน้ำเป็นสิ่งแรกของวัน และจิบบ่อยๆตลอดทั้งวันเพื่อเติมน้ำให้แก่ร่างกาย เพราะในบางครั้ง อาการปวดหัวก็เป็นเหตุผลหนึ่งจากการขาดน้ำจากภาวะถอนคาเฟอีนและการดื่มน้ำทุกเช้าเวลาตื่นนอนก็สามารถช่วยลดอาการอยากทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนได้เช่นกัน
3.หากมีอาการปวดหัว ยาแก้ปวดคือตัวช่วยของคุณ
ถ้าคุณมีอาการปวดหัว สามารถทานยาแก้ปวดรักษาอาการเบื้องต้นได้ แต่ระวังอย่าทานมากจนเกินไป (ไม่ควรเกิน 8 ครั้ง หรือ 4 มิลลิกรัมต่อวัน และไม่ควรบริโภคติดกันเกิน 5 วันขึ้นไป)
4. นอนหลับให้เพียงพอ และบริโภคอาหารที่มีประโยชน์
การพักผ่อนให้เพียงพอและบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยเสริมสร้างพลังงานให้ร่างกายของคุณได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องดื่มคาเฟอีนเลย เพราะจากหลายวิจัยพบว่าคาเฟอีนมีฤทธิ์ให้คุณตื่นตัวและมีพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นการบริโภคอาหารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายและนอนพักผ่อนเพียงพอสามารถทดแทนการบริโภคคาเฟอีนได้
5.พยายามหลีกเลี่ยงกาแฟเอสเพรสโซ่หรืออเมริกาโน่รสเข้ม
ถ้าคุณยังอยากดื่มกาแฟอยู่ ลองหันมาบริโภคกาแฟที่ใส่นม เช่น ลาเต้ หรือกาแฟแบบสกัดเย็นแทน เพื่อลดความเข้มของปริมาณคาเฟอีน
6.ลองเปลี่ยนจากกาแฟเป็นชาดูสิ!
ลดคาเฟอีนในปริมาณที่น้อยลงโดยการบริโภคชาแทน ซึ่งชามีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่ากาแฟในปริมาณ25-70 มิลลิกรัมต่อแก้ว ในขณะที่กาแฟมี90-170 มิลลิกรัมต่อแก้ว โดยทั่วไปคนเราสามารถรับคาเฟอีนได้ไม่เกิน 300-400 มิลลิกรัมต่อวันดังนั้นชาจึงสามารถดื่มได้ทุกวันโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและอาการเจ็บปวดต่างๆที่เกิดจากภาวะถอนคาเฟอีน เพราะในชามีปริมาณคาเฟอีนน้อยนั่นเอง
![](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/files/Kombucha_mocktail.jpg?v=1664767454&width=3840)
![](http://www.northlandtea.com/cdn/shop/files/Drip_coffee_pic.jpg?v=1663055668&width=3840)
การดื่มชาแทนดื่มกาแฟเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะถอนคาเฟอีน: ดีกว่ายังไง?
-
● ชามีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่า
● ชาสามารถทำให้ร่างกายโฟกัสสิ่งต่างๆได้มากขึ้น โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
● หลายวิจัยเผยว่า ชามีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดน้ำหนัก ช่วยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ปราศจากแคลอรี่ เป็นต้น
● ชามีหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีรสชาติที่ต่างกัน คุณจะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆในการชิมชา และค้นหารสชาติที่ตัวเองชื่นชอบ
-
● ชาที่แนะนำคือชาดำและชาเขียว เนื่องจากมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ในระดับที่ส่งผลต่อสมาธิ แต่ไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย
● การดื่มชาช่วยประหยัดงบได้มากกว่า เพราะสามารถชงชาได้ง่ายๆที่บ้าน ที่สำคัญการชงชาสามารถชงได้หลายครั้งมากกว่าการชงเมล็ดกาแฟ (แต่ชาต้องเป็นชาเต็มใบเท่านั้นถึงจะชงซ้ำได้)
● การดื่มชาส่งผลต่อผิวพรรณทำให้ดูสุขภาพดียิ่งขึ้น เพราะชามีสาร "L-theanine" (แอล-ธีอะนีนเป็นกรดอมิโนที่ดีต่อร่างกายชนิดหนึ่ง) ช่วยระบบภูมิคุ้มกันและยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น สวยใสจากภายในสู่ภายนอก!
.
.
.
คาเฟอีน สามารถเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์สําหรับหลายคนที่ต้องการให้ตื่นตัวและมีสมาธิในการทำงาน แต่ก็อาจทําให้เกิดปัญหาได้หากคุณไม่ระวัง ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลด หรือ เลิกดื่มคาเฟอีนนั้น สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำคือ การหักดิบโดยการเลิกดื่มทันที แต่ควร "ลดการบริโภคคาเฟอีนทีละน้อย" ในช่วงหลายสัปดาห์แทน เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ
หากคุณกำลังมองหาวิธีลดคาเฟอีนง่ายๆที่จะมาแทนที่กาแฟในยามเช้า การจิบชาเขียวอุ่นๆสักถ้วยก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะในชามีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่ากาแฟหลายเท่า และชายังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายเมื่อคุณได้เปลี่ยนมาลองดื่มชาดู นอกจากจะช่วยลดคาเฟอีน
ลงแล้วยังได้ประสบการณ์ผ่อนคลายที่แปลกใหม่อีกด้วย
.
.
.
มาเริ่มต้นก้าวแรกที่ดีในการมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีความสุขมากขึ้นกัน!